คำอธิบายตัวบ่งชี้
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม
สมศ.มีแนวคิดและหลักการในการประเมินคุณภาพภายนอกตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติโดยมุ่งเน้นคุณภาพของเด็กเป็นหลัก เพื่อให้ความมั่นใจว่าเด็กจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน
ไม่ว่าจะอยู่ท้องถิ่นใดก็ตาม การศึกษาปฐมวัยถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเด็กให้มีรากฐานสำหรับความสามารถ
ทั้งปวงในชีวิตเพราะเป็นวัยที่ระบบประสาทและสมองกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและกำลังสร้างใยประสาท
เชื่อมประสานกันระหว่างเซลล์สมอง ปฐมวัยจึงถือเป็นวัยต้นทุนของชีวิตที่จะนำสู่การพัฒนาคนให้มีคุณภาพอย่าง
เต็มตามศักยภาพ การจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้เด็กได้รับการอบรมเลี้ยงดูที่มีคุณภาพและได้รับประสบการณ์
การเรียนรู้ต่างๆจะมีอิทธิพลต่อการวางรากฐานของการพัฒนาเด็กทั้งทางร่างกาย สติปัญญา
อารมณ์ สังคม และ บุคลิกภาพ การศึกษาปฐมวัยจึงเป็นการสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จในการเรียนและการดำเนินชีวิต
ของเด็กต่อไป การพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยจึงมีความสำคัญยิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนา
ให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์และจิตใจ สังคม และสติปัญญาสมวัย เป็นพลเมืองไทยที่สามารถเรียนรู้
เพื่อความเจริญงอกงามของตนเองและสังคม สามารถสืบสานวัฒนธรรม และสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคม
ภูมิปัญญาได้อย่างเหมาะสมสืบไป ระบบการประกันคุณภาพการจัดการศึกษาจึงเป็นเครื่องมือในการส่งเสริม
และ สนับสนุนให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
๒.๑ แนวคิดและทิศทางในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามระดับการศึกษา ปฐมวัย
(๒-๕ ปี)
๑. ประเมินอิงเกณฑ์ตามจุดเน้นของสถานศึกษา
๒. ประเมินจากผลการจัดการศึกษาที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กับกระบวนการจัดการศึกษา
ซึ่งหมายรวมถึงการจัด การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การบริหารจัดการศึกษา
และการประกันคุณภาพภายใน
๓. ประเมินโดยวิธีการและข้อมูลทั้งเชิงปริมาณ
เชิงคุณภาพ และเชิงพัฒนาการโดยพิชญพิจารณ์ (Peer Review)
๔. ประเมินโดยการยืนยันรายงานการประเมินตนเองที่ถูกต้องเชื่อถือได้
เพื่อกระตุ้นให้การประกันคุณภาพ ภายในมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
๕.
ลดจำนวนตัวบ่งชี้และจำนวนมาตรฐานสำหรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดยถ่ายโอนตัวบ่งชี้และ
มาตรฐานเกี่ยวกับปัจจัยนำเข้าและกระบวนการให้อยู่ในระบบการประกันคุณภาพภายใน
๒.๒ คำนิยามของกลุ่มตัวบ่งชี้
ตัวบ่งชี้การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๘) ระดับการศึกษาปฐมวัย (๒-๕ ปี) แบ่งเป็น ๓ กลุ่มตัวบ่งชี้ คือ กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน
กลุ่มตัวบ่งชื้อลักษณ์ และกลุ่มตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม ดังนี้
กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน หมายถึง
ตัวบ่งชี้ที่ประเมินภายใต้ภารกิจของสถานศึกษา โดยกำหนดตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินบนพื้นฐานที่ทุกสถานศึกษาต้องมีและปฏิบัติได้
ซึ่งสามารถชี้ผลลัพธ์และผลกระทบได้ดี และมีความเชื่อมโยงกับการประกันคุณภาพภายใน เป็นการพัฒนามาจากการประเมินคุณภาพภายนอกรอบแรกและรอบสอง
ประกอบด้วย ตัวบ่งชี้ที่ ๑-๘
กลุ่มตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ หมายถึง
ตัวบ่งชี้ที่ประเมินผลผลิตตามปรัชญา ปณิธาน พันธกิจ และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถานศึกษา
รวมถึงความสำเร็จตามจุดเน้น และจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสถานศึกษา
โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษา
ประกอบด้วย ตัวบ่งชี้ที่ ๙ - ๑๐
กลุ่มตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม
หมายถึง ตัวบ่งชี้ที่ประเมินผลการดำเนินงานของสถานศึกษาโดยสถานศึกษาเป็นผู้กำหนดแนวทางพัฒนาเพื่อร่วมกันชี้แนะ
ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสังคมตามนโยบายของรัฐ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาและปัญหาสังคมที่เปลี่ยนไป
โดยมีเป้าหมายที่แสดงถึงความเป็น ผู้ช่วยเหลือสังคมและ แก้ปัญหาสังคมของสถานศึกษา เช่น
การปฏิรูปการศึกษา การส่งเสริมและสืบสานโครงการตามพระราชดำริและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
การส่งเสริมประชาธิปไตยในสถานศึกษา การป้องกัน สิ่งเสพติด การอนุรักษ์พลังงาน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การป้องกันอุบัติภัย การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย การส่งเสริมความรักชาติและความเป็นไทย
ฯลฯ โดยสถานศึกษาเป็นผู้กำหนดและหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษาให้การรับรองการกำหนดตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริมของสถานศึกษา
ประกอบด้วย ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑ และ ๑๒
๒.๓ หลักเกณฑ์การกำหนดตัวบ่งชี้
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๘) ระดับการศึกษาปฐมวัย (๒-๕ ปี) ได้มีการพัฒนาตัวบ่งชี้ ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน
กลุ่มตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ และกลุ่มตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริมให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ
หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๓ ข้อ ๓๘ ซึ่งกำหนดให้ สมศ.ทำการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาแต่ละแห่งตามมาตรฐานการศึกษาของชาติและครอบคลุมหลักเกณฑ์ในเรื่องต่อไปนี้
คือ ๑) มาตรฐานที่ว่าด้วยผลการจัดการศึกษาในแต่ละระดับและประเภทการศึกษา
๒) มาตรฐานที่ว่าด้วยการบริหารจัดการศึกษา ๓) มาตรฐานที่ว่าด้วยการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และ ๔)
มาตรฐานที่ว่าด้วยการประกันคุณภาพภายใน ดังนี้
๑. มาตรฐานที่ว่าด้วยผลการจัดการศึกษา
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่
๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา
๖ ระบุว่า “การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย
จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข”
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ประเมินมาตรฐานนี้ด้วยตัวบ่งชี้พื้นฐาน
๕ ตัวบ่งชี้ ตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ ๒ ตัวบ่งชี้ และตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม ๑ ตัวบ่งชี้
ดังนี้
ตัวบ่งชี้พื้นฐาน
๑. เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายสมวัย
๒. เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจสมวัย
๓. เด็กมีพัฒนาการด้านสังคมสมวัย
๔. เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญาสมวัย
๕. เด็กมีความพร้อมศึกษาต่อในขั้นต่อไป
ตัวบ่งชี้อัตลักษณ์
๑. ผลการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายตามปรัชญา
ปณิธาน พันธกิจและวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถานศึกษา
๒. ผลการพัฒนาตามจุดเน้นและจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา
ตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม
ผลการดำเนินการโครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมบทบาทของสถานศึกษา
๒. มาตรฐานที่ว่าด้วยการบริหารจัดการศึกษา
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๓๙ ระบุว่า “ให้กระทรวงกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา
ทั้งด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไปไปยังคณะกรรมการ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
และสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง หลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจดังกล่าว ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง”
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ประเมินมาตรฐานนี้ด้วยตัวบ่งชี้พื้นฐาน
๑ ตัวบ่งชี้ และตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม ๑ ตัวบ่งชี้ ดังนี้
ตัวบ่งชี้พื้นฐาน
ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการและการพัฒนาสถานศึกษา
ตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม
ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศึกษาเพื่อยกระดับมาตรฐาน
รักษามาตรฐาน และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ที่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษา
๓. มาตรฐานที่ว่าด้วยการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๒๔ ระบุว่า “จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน
โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์
และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง
จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่างๆอย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ
สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้รวมทั้งจัดการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ทุกสถานการณ์”
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามประเมินมาตรฐานนี้ด้วยตัวบ่งชี้พื้นฐาน
๑ ตัวบ่งชี้
ตัวบ่งชี้พื้นฐาน
ประสิทธิผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ
๔. มาตรฐานที่ว่าด้วยการประกันคุณภาพภายใน
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๔๘ ระบุว่า “ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน
เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก”
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ประเมินมาตรฐานนี้ด้วยตัวบ่งชี้พื้นฐาน
๑ ตัวบ่งชี้ ดังนี้
ตัวบ่งชี้พื้นฐาน
ประสิทธิผลของระบบการประกันคุณภาพภายใน
๒.๔ การกำหนดค่าน้ำหนักตัวบ่งชี้
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๘) ระดับการศึกษาปฐมวัย (๒-๕ ปี) กำหนดให้มีตัวบ่งชี้พื้นฐาน จำนวน ๘ ตัวบ่งชี้
มีค่าน้ำหนักรวม ๙๐ คะแนน ประกอบด้วย
- มาตรฐานที่ ๑ ผลการจัดการศึกษา
ได้แก่ ตัวบ่งชี้ที่ ๑-๕ มีค่าน้ำหนักรวม ๓๕ คะแนน
- มาตรฐานที่ ๒ การบริหารจัดการศึกษา
ได้แก่ ตัวบ่งชี้ที่ ๗ มีค่าน้ำหนัก ๑๕ คะแนน
- มาตรฐานที่ ๓ การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ได้แก่ ตัวบ่งชี้ที่ ๖
มีค่าน้ำหนัก ๓๕ คะแนน
- มาตรฐานที่ ๔ การประกันคุณภาพภายใน
ได้แก่ ตัวบ่งชี้ที่ ๘ มีค่าน้ำหนัก ๕ คะแนน
ตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ มีจำนวน
๒ ตัวบ่งชี้ มีค่าน้ำหนักรวม ๕ คะแนน และ ตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม มีจำนวน ๒ ตัวบ่งชี้
มีค่าน้ำหนักรวม ๕ คะแนน
๒.๕ ข้อมูลการดำเนินงานของสถานศึกษาที่ใช้ประกอบการพิจารณา
ข้อมูลที่ใช้ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.๒๕๕๔ – ๒๕๕๘) ระดับการศึกษาปฐมวัย (๒-๕ ปี)
ใช้ข้อมูลผลการดำเนินงานเฉลี่ย ๓ ปีการศึกษาย้อนหลังก่อนการประเมิน
(กรณีสถานศึกษาเปิดใหม่ที่มีการดำเนินงานไม่ครบ ๓ ปีการศึกษา
ให้ใช้ข้อมูลผลการดำเนินงานเฉลี่ย ๒ ปีการศึกษาล่าสุด หรือหากมีการดำเนินงานไม่ครบ
๒ ปีการศึกษา ให้ใช้ผลการดำเนินงาน ๑ ปีการศึกษาล่าสุดก่อนการประเมิน)
๒.๖ รูปแบบการประเมิน
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. ๒๕๕๔
– ๒๕๕๘) ระดับการศึกษาปฐมวัย (๒-๕ ปี) มีรูปแบบการประเมิน ๔ รูปแบบ
ดังนี้
๑. การประเมินเชิงปริมาณ
ได้แก่ ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๑-๑.๒ , ๒.๑-๒.๒ , ๓.๑-๓.๒ , ๔.๑-๔.๔ , ๕.๑-๕.๒
๒. การประเมินเชิงปริมาณและเชิงพัฒนาการ
ได้แก่ ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๒
๓. การประเมินเชิงคุณภาพ
ได้แก่ ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๑-๖.๖ , ๗.๑-๗.๖ , ๘.๑ , ๙ , ๑๐ และ ๑๒
๔. การประเมินเชิงคุณภาพและการพิจารณาผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น(Better)ได้แก่ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑
๒.๗ กลุ่มตัวบ่งชี้เพื่อการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามระดับการศึกษาปฐมวัย
(๒-๕ ปี)
ตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓ ครอบคลุมมาตรฐานว่าด้วย
๑) ผลการจัดการศึกษา
๒) การบริหารจัดการศึกษา
๓) การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
๔) การประกันคุณภาพภายใน
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๘) ระดับการศึกษาปฐมวัย
(๒-๕ ปี) ประเมินมาตรฐานตามกฎกระทรวงฯ
โดยประกอบด้วย ๓ กลุ่มตัวบ่งชี้ คือ กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน (๘
ตัวบ่งชี้) กลุ่มตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ (๒
ตัวบ่งชี้) และกลุ่มตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม (๒ ตัวบ่งชี้) มีจำนวนรวมทั้งหมด ๑๒ ตัวบ่งชี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น